ใช้เป็นเครื่องรางมาแต่โบราณกาล หลอมรวมพลังจักรวาลมานับพันปี หินแท้มีพลัง ดิน น้ำ ลม ไฟ ทุกเม็ด สร้อยข้อมือหิน ไทเกอร์อาย คั่นด้วย บลูไทเกอร์อาย สวยงาม เสริมมงคล เข้มขลัง มีพลังดึงดูด...( นะมะพะทะ นิมิพิทิ นุมุพุทุ )หินเลือกผู้ครอบครองเสมอ!

-ไทเกอร์อายส์ Tiger Eyes

"ไทเกอร์อาย" เป็นหินสีเหลืองทอง หรือสีนํ้าตาลทองอยุ่ในตระกูลคว้อทซ์ ความแข็งอยู่ประมาณ 6.5-7ตามสเกลของโมห์ เป็นหินที่เกิดจากการก่อตัวมาจากหินฮอคส์อาย เมื่อมีหินคว้อทซ์แทรกตัวแทนที่แร่โครซิโดไลท์ และเมื่อนําไปขัดสีฉวีวรรณแล้วจะมีลักษณะสะท้อนแสงตามแนวขวางเหมือนตาของเหยี่ยวจึงได้ชื่อว่า ฮอคส์อาย ต่อมามีแร่เหล็กแทรกตัวเข้าไปในฮอคส์อายอีกจะเกิดอ็อกไซด์สีนํ้าตาลเป็นแนวยาว จึงเรียกว่าไทเกอร์ส์อายเพราะจะมีสีเหลืองทองปนนํ้าตาลมากขึ้นคล้ายกับสีของเสือโคร่ง หรือสัตว์จําพวกแมวใหญ่ ยกเว้นสิงห์โต และจะมีการเล่นแสงแพรวพราวเหมือนไหม หรือผ้าซาตินลักษณะนี้เรียกว่าแชทโทยันซี(chatoyancy-เป็นแสงเส้นยาวตามวิ่งเหลือบไปมาบนผิวหน้าของอัญมณี)เมื่อเจียรไนเป็นรูปหลังเบี้ย(หลังเบี้ยคือการเจียรนัยเป็นรูปครึ่งวงกลม นูน)พบมากที่อินเดีย อเมริกา เม็กซิโกพม่า อินเดีย นามิเบีย ออสเตรเลีย อาฟริกาไต้

...มีสีเหลืองทอง เหลืองทองอมนํ้าตาลทึบแสง เนื่องจากมีลักษณะทางกายภาพเหมือนเป็นไฟเบอร์เล็กๆแทรกอยู่ภายในคริสตัลของแร่ซิลิกา จึงทําให้เกิดลักษณะเช่นนี้ขึ้น เป็นหินชนิดหนึ่งที่สามารถดึงดูดโชคลาภความมั่งคั่งรํ่่ารวย และยังจะรักษาความรํ่ารวยไว้ได้ ป้องกันอันตราย ทําให้จิตใจที่มีความทิฐิ ดื้อดึง ให้อ่อนโยนลง ช่วยให้พลังหญิงชายสมดุลย์กัน ทําให้ปัญหาเรื่องเพศหมดไป จิตใจผ่อนคลายจิตใจไม่สับสน ชีวิตไม่วุ่นวายเป็นระเบียบ และเปิดใจยอมรับ เป็นหินที่ให้ความคุ้มครองและป้องกันตัวสูงมากชนิดหนึ่ง ป้องกันการถูกสาบแช่งและจิตใจมุ่งร้ายที่จะทําให้เกิดการเจ็บป่วย ป้องกันจิตใจในภาวะที่ไม่รู้สึกตัว หรือกําลังนอนหลับและในภาวะที่กําลังฝันอยู่ ถ้าพกหินชนิดนี้ไว้กับตัวจะทําให้มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม มีพลังในด้านของเสน่ห์ติดตัว ช่วยในการปกป้องคุ้มครองอันยอดเยี่ยมเปรียบเสมือนมีเกราะป้องกันตัวสามารถป้องกันพลังด้านลบ รวมไปถึงการทำทางไสยศาสตร์ต่างๆใครทำของไม่ดีใส่จะกลับไปหาคนนั้น และยังช่วยในเรื่องของอารมณ์ ความเบื่อหน่ายขี้เกรียจให้มีไฟอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เกิดความอดทน มั่นใจในตัวเองไม่ย่อท้อในเรืองของกายภาพ จะช่วยในระบบการย่อยอาหารได้ดี

...ไทเกอร์อายเหมาะกับการใช้นั่งสมาธิ มีพลังในด้านการบำบัดจิตใจสูง เป็นศูนย์รวมแห่งพลังความคิดและพลังของการจินตนาการ จะช่วยกระตุ้นพลังชีวิตและกระตุ้นพลังความคิดให้เกิดแรงบันดาลใจ นอกจากนี้คนโบราณยังเชื่อว่าหินชนิดนี้จะส่งผลดีต่อจิตใต้สำนึก ช่วยให้เราสามารถค้นหาสิ่งดีๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเราได้ นอกจากนี้แล้วหินไทเกอร์อายยังมีพลังในด้านการบำบัดบรรเทาอาการปวดศีรษะอันเนื่องมาจากความเครียด ปวดท้อง หรือมีปัญหาระบบลำไส้ ซึ่งอาจจะเกิดจากความเครียด สวมใส่สร้อยที่ทำด้วยหินชนิดนี้แล้วจะสามารถบรรเทาอาการปวดให้คลายลงได้ ขจัดพลังทำลายในบริเวณช่องท้อง และผลักพลังร้ายออกจากร่างกาย เปิดระบบไหลเวียนของโลหิตให้เป็นระบบและคงที่ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย รวมไปถึงเป็นศูนย์รวมแห่งพลังความคิดและจินตนาการ เหมาะกับคนที่มีจิตใจเลื่อนลอย ไร้แก่นสาร หินชนิดนี้จะรวบรวมพลังเข้ามาสู่ตัวเราได้เหมือนเป็นการโฟกัสจุดให้กับเป้าหมายในชีวิต บางคนอาจทำงานหนักโดยไม่มีเป้าหมายหรือไม่มีแก่นสารที่แท้จริงว่าทำไปเพื่ออะไร เสริมความมีระเบียบ ความมีวินัย สุขุม ความมั่นคงของจิตใจและร่างกาย หินชนิดนี้ก็จะช่วยให้เราหาจุดสมดุลของชีวิตตัวเองได้ เชื่อกันว่าเป็นหินตาที่สาม จะช่วยในการคาดการณ์ล่วงหน้า และหยั่งรู้ความ- เป็นไปในอนาคต จะทำให้ผู้ครอบครองมีพลังความเป็นผู้นำอยู่เต็มเปี่ยม กล้าคิดตัดสินใจ และมักจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันเสมอ ทำให้การงานมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จด้วยดีโดยตลอด

...บางครั้งเรียกว่าไทเกอร์อายเป็นหินแห่งความสมดุลย์ เพราะว่าทําให้พลังงานที่อํานาจตรงกันข้ามกันมีสภาวะเป็นกลางทําให้เกิดความเข้าใจกัน ไทเกอร์อาย เป็นหินที่เหมาะกับบุคคลที่อยู่ในสภาวะเป็นคนกลาง หรือเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงหรือขัดแย้งให้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และไม่สามารถที่จะให้ความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ที่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้(เพราะอยู่ในสถานะที่เป็นกลาง)ว่าจะทําให้อีกฝ่ายเกิดผลร้ายได้ ทําให้เกิดการมองเห็นเหตุการณ์ได้ทะลุปรุโปร่ง ถ้าใช้ในการทําสมาธิจะช่วยให้พบหนทางระหว่างพลังงานที่แตกต่างกันมาพบกัน และเกิดพลังงานที่เข้มแข็งช่วยในการติดต่อพลังงานของธาตุดิน ซึ่งจะทําให้เกิดความเข้าใจช่วยเหลือหรือเข้าถึงพลังงานของจักรวาลที่สูงขึ้นไปเมื่อได้ทําสมาธิทุกวันจะทําให้เกิดผลดียิ่งขึ้น

...หินตาเสือจะเล่นแสงเมื่อตัวหินกระทบกับแสงอาทิตย์ แสงไฟฟลูออเรสเซ้น หรือแสงอื่นประเภทต่างๆ และจะให้สีที่ต่างกันในแต่ละชนิดของแสงที่ตกกระทบกับมุมของหิน แต่ถ้าพลอยไม่โดนแสงโดยตรง สีกับประกายเหลือบของหินที่เห็นจะแตกต่างกัน
...ไทเกอร์อายสีแดง เพิ่มความมั่นใจในตนเอง และความกล้าที่จะพูดปราศัยในที่สาธารณะชนหรือในที่ประชุมต่างๆ
...ไทเกอร์ อายสีทอง ทําให้จิตใจแน่วแน่เกิดความสามารถในการหยั่งรู้ การมองเห็นทางจิตและปลุกตาที่สาม(Third eye เป็นดวงตาภายในที่อยู่ระหว่างคิ้วหรือเป็นจุดพลังงานที่6)ให้ทํางาน และถ้ารู้ตัวว่าจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นจะต้องพบกับบุคคลที่มีบุคลิกข่มขู่ แข็งกร้าวควรจะพบถุงเครื่องรางเล็กๆที่ประกอบด้วย ใบโฮลี่ทิสเทิ้ล ใบสเปียร์มินท์ ใบวอลนัทและที่สําคัญคือหินไทเกอร์อายชิ้นเล็กๆติดตัวไว้
...ไทเกอร์ไอออน เป็นไทเกอร์อายชนิดหนึ่งที่มีลักษณะผสมของไทเกอร์อายหลายชนิดเป็นแถบสีเหลือง สีแดงของจัสเปอร์สีแดง และสีคลํ้าของเฮมาไทท์สีดําเป็นหินที่ช่วยปลดปล่อยอารมณ์เจ็บปวดเอาชนะความกลัว ช่วยให้มีความสามัคคีกลมเกลียวกันของกลุ่มคนที่อยู่ร่วมกันหรือทํางานร่วมกันอย่างเต็มใจเต็มไปด้วยมิตรภาพและความเต็มใจเพื่อให้สําเร็จในจุดมุ่งหมายเดียวกัน หรือกระตุ้นให้เกิดการช่วยเหลือสังคมส่วนรวมเพื่อความเข้มแข็งในสังคมโดยการ กระตุ้นให้แต่ละคนนําความสามารถออกมารวมกันเพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้น ไทเกอร์ไอร์ออนที่พบในออสเตรเลียจะมีชื่อเสียงมากเพราะมีสีเหลืองทองเหลือบเป็นประกายสวยงามเหมือนพระอาทิตย์ตกยามอัสดงเบื้องหลังภูเขาใหญ่ เชื่อกันว่าช่วยทําให้มีอํานาจจิตมีความเข้มแข็ง เหมาะสําหรับธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าดี
...ไทเกอร์อายคว้อทซ์สีฟ้าเป็นหินของธาตุนํ้าช่วยทําให้การหายใจให้ดีขึ้น ช่วยให้ปอดทํางานให้สมบูรณ์ ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวคล่องแคล่วไม่ติดขัด และการทํางานของต่อมต่างๆในร่างกายทํางานได้เป็นปกติ ช่วยให้กล้ามเนื้อ ระบบประสาทแข็งแรง มีความยืดหยุ่นได้ดีกระตุ้นการทํางานของตาที่สาม ที่อยู่ภายในกระโหลกศรีษะบริเวณระหว่างคิ้วให้เปิด ช่วยกระตุ้นให้จิตใจความคิดกระฉับกระเฉงตื่นตัว และทําให้สายตาดีขึ้น

(สองเม็ดล่าง) ตรงชีพจร -บลูไทเกอร์อาย บ้างเรียกหินตาเหยี่ยว Hawk's Eye/Falcon's Eye

...คุณสมบัติของหินชนิดนี้หรือพลอยตาเหยี่ยวนี้ ช่วยเราทำให้เรามีมุมมองที่ดี สามารถที่จะมองเห็นและเผชิญกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ พลอยตาเหยี่ยวเป็นพลอยที่ทำให้เราหยั่งรู้ มีความรู้จากภายในเปรียบดังพ่อมด มันทำให้เรามองทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบด้วยสายตาที่ชาญฉลาด เปรียบเสมือนสายตาของเหยี่ยว หินชนิดนี้ ใช้สำหรับสมดุลการมองโลกในแง่ร้ายกับการมองโลกในแง่ดี ดังนั้น จะละลายพลังงานที่ไม่ดีออกจากระบบความคิดของเรา หินชนิดนี้ยังทำให้จักระตาที่สามของเราค่อยๆเปิดอย่างเป็นธรรมชาติและช่วยทำ ให้เรามีความสามารถพิเศษหลายอย่าง เช่นสามารถเป็นคนทรงได้ (clairvoyance) หินชนิดนี้ช่วยให้เรากราวด์เอาพลังที่ไม่ดีออกจากตัวเราหากว่าเรา วางไว้ที่จักระมูลฐาน (จักระที่หนึ่ง) หิน ชนิดนี้จึงควรใช้กำหรับคนที่ชอบโดยความผิดให้กับคนอื่นโดยที่ไม่สามารถที่จะ มองเห็นปัญหาของตนเองตรงๆได้ เมื่อคนเหล่านี้รู้สึกว่าคนอื่นทำให้ตนเองมีปัญหา ก็ควรจะแนะนำให้ใช้หินตาเหยี่ยวกราวด์เอาสิ่งไม่ดีเหล่านั้นออกไป แม้ว่าปัญหานั้นจะเกิดขึ้นจากตนเองก็ตาม ก็จะแก้ปัญหาได้

...หินตาเหนี่ยวสามารถพบเจอได้ในหลายๆสี เช่น สีฟ้า ช่วยทำให้นั่งสมาธิได้ลึกขึ้น ช่วยทำให้มองเห็นความจริงตามสิ่งที่เป็นจริง ทำให้คนเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพได้ สามารถเปิดจักระตาที่สามได้ สีเทา เป็นสีแห่งความเป็นตัวของตัวเอง มันให้ความรู้สึกที่ว่าคุณเป็นคนที่พอใจในความเป็นตัวของคุณเองและไม่ต้อง การให้คนอื่นมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคุณนัก สีเทาเป็นสีแห่งความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ขึ้นกับใคร แต่อย่างไรก็ตาม สีเทายังให้ความรู้สึกและพลังในด้านลบเพราะทำให้ คนที่อยู่กับสีนี้นานๆกลายเป็นคนอ้างว้าง และชอบตำหนิตัวเอง สีเทาเป็นสีที่รวมกันระหว่างสีดำและสีขาว ดังนั้นจึง ได้คุณลักษณะของสีทั้งสองนี้มาด้วย สีเขียว ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงและทำให้อารมณ์ของเรามีความเชื่อมต่อกับจักระหัวใจ พลอยตาเหยี่ยวสีเขียวมีความสัมพันธ์เป็นอย่างมากกับธรรมชาติ

______________________________________________________________________________________________________________________________

*** ข้อคิดสะกิดใจ ***
เป็นที่รู้กันว่าวิทยาศาสตร์ได้อธิบายเรื่องพลังของหินเอาไว้ว่าเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง เมื่อผ่านกาลเวลาที่จะหลอมรวมกันได้สะสมพลังจากจักรวาล มีพลังของดิน น้ำ ลม ไฟ ผ่านกาลเวลามานานนับร้อยนับพันล้านปี จึงมี รูปทรง สีสัน และคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป จนกลายเป็นอัญมณี ควอตซ์ หรือหินผลึกชนิดอื่นๆ และมนุษย์ตั้งแต่สมัยโบราณ ได้เรียนรู้ ในการนำพลังออกมาจากหิน นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการบำบัดรักษาโรค จนกลายเป็นศาสตร์โบราณต่างๆเช่น เจมสโตน ฮีลลิ่ง (Gemstone Healing) เจม เทราพี (Gem Therapy) คริสตัล ฮีลลิ่ง (Crystal Healing)

...ขอกล่าวว่าควรทำแต่ความดี จะช่วยเสริมตัวคุณเอง และช่วยเสริมพลังให้หินด้วย เช่นได้สวดมนต์ ไปทำบุญบ่อยๆ อานิสงค์แห่งบุญที่เกิดมากที่สุดคือการเจริญภาวนา(สวดมนต์นั่งสมาธิ) หินทุกก้อนนอกจากปลูกเสก(ทางที่ดีควรให้สัมผัสกับเนื้อเราจะสื่อถึงกันได้ดี แต่จะให้เอาทุกก้อนที่ขายมาสัมผัสคงไม่ได้ หินพวกนี้จะดูดซับบุญบารมีที่คนมาปฏิบัติแผ่ออกมา เสียงสวดมนต์ที่พระสวดต่างๆ ก็ทำให้หินมีพลังมากขึ้นได้) หินศักดิ์สิทธิ์มากไหมมันอยู่ที่ใจครับ ถ้าเชื่อในตัวมันเดี๋ยวได้ดีเอง แต่ใส่ไปแบบไม่เชื่ออะไรก็คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่บอกให้ลองปักใจศรัทธามันดู ก็ประสบผลดีเกินคาดทุกคนไป บอกแล้วใจดีซะครึ่งหนึ่ง อะไรๆก็จะดีตามไปหมด สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ธรรมนั้นมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นหัวหน้า ทุกอย่างสำเร็จแล้วด้วยใจ” ส่วนพลังหินนั้นก็เป็นพลงลี้ลับที่เราไม่อาจมองเห็นได้ แต่สัมผัสได้กับผลสำเร็จของเรา
...จะสวดบทอะไรก็ได้ เช่น พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุง พระไตรปิฏก ธรรมจักร พระคาถาชินบัญชร อื่นๆตามแต่ศรัทธา แต่ให้เอาหินมาใส่ตัวไว้ หรือตั้งหน้าหิ้งพระตามแต่สะดวก เสร็จแล้วทำใจให้บริสุทธิ์แผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย หินนี้ก็จะดูดพลังไว้เหมือนกัน จะรวยได้ต้องหมั่นบริจาคทาน หล่อสวยจากการรักษาศีล อยากมีปัญญาดีก็หมั่นเจริญภาวนา
...นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น เช่น อาบแสงจันทร์วันขึ้น 15 ค่ำ(สัก 10 นาที),การอาบแสงอาทิตย์ เป็นต้น เพื่อเป็นการทำให้หินมีพลังตามธรรมชาติที่เป็นต้นกำเินิดของหิน ที่ผ่านแสงอาทิตย์ แสงจันทร์มาหลายร้อยปี

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน